วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ลองตอบดู แล้วจะรู้คุณคือใคร....

ถ้าตอบถูก......
10 ข้อ คุณเป็น...อัจฉริยะ
9 ข้อ คุณเป็น...สมาชิกของเมนซาณ
8 ข้อ คุณเป็น...วิศวกร
7 ข้อ คุณเป็น...นักศึกษามหาวิทยาลัย
6 ข้อ คุณเป็น...นักเรียนมัธยมปลาย
5 ข้อ คุณเป็น...นักเรียนประถม
4 ข้อ คุณเป็น...ครูสอนนักเรียนมัธยม
3 ข้อ คุณเป็น...ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย
2 ข้อ คุณเป็น...นักสืบ FBI
1 ข้อ คุณเป็น...สมาชิกสภาคองเกรส
0 ข้อ คุณเป็น...เป็นเรื่องธรรมดา
เชิญลองทำแล้วเขียนคำตอบลงบนกระดาษก่อนดูเฉลยนะ
(พยายามอย่าแค่คิดไว้แล้วจำไปดูคำตอบ เพราะอาจเบี่ยงเบนได้นะ)
ถ้าตอบถูกหมดโคตรเก่งอย่าโกงนะ
ทดสอบดูมี 10 คำถามนะ...ลองตอบดูภายใน 10 นาที
(ทำแล้วบอกกันด้วยนะค้า ว่าแต่ละคนตอบถูกกี่ข้อ อิอิ)

1. บางเดือนมี 30 วัน บางเดือนมี 31 วัน มีกี่เดือนที่มี 28 วัน

2. ถ้าคุณหมอให้ยามา 3 เม็ด แล้วบอกให้คุณกินยาทุกๆ ครึ่งชั่วโมงคุณต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะกินยาหมด

3. ถ้าเข้านอนตอน 2 ทุ่ม แล้วตั้งนาฬิกาให้ปลุกตอน 9 โมงเช้าถามว่าจะได้นอนกี่ชั่วโมงก่อนที่นาฬิกาปลุกจะ ดั ง

4. เอา 30 หารครึ่ง แล้วบวก 10 จะได้คำตอบเท่าไหร่

5. ชาวนามีแกะ 17 ตัว ทุกตัวยกเว้น 9 ตัวตายหมดถามว่ายังมีแกะที่มีชีวิตเหลืออยู่กี่ตัว

6. ถ้าคุณมีไม้ขีดไฟเหลือเพียงก้านเดียวแล้วต้องเข้าไปใ นห้องที่ทั้งหนาวทั้งมืดในห้องนั้นมีฮีตเตอร์น้ำมัน ตะเกียงน้ำมัน และเทียนไข คุณจะเลือกจุดอะไร

7. ชายคนหนึ่งสร้างบ้านด้วยไม้ที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าท ั้ง 4 ด้านและหันบ้านไปทางทิศใต้ ถ้ามีหมีผ่านมาถามว่าหมีตัวนั้นจะมีสีอะไร

8. หยิบแอปเปิ้ล 2 ลูกออกจากแอปเปิ้ล 3 ลูก ถามว่าคุณจะได้อะไร

9. โมเสสเอาสัตว์ขึ้นเรือตอนวันสิ้นโลกไปชนิดละกี่ตัว

10. ถ้าคุณขับรถซึ่งบรรทุกคน 43 คนจากชิคาโกไปพิสเบอร์กแล้วหยุดรับอีก 7 คนขึ้นมา แล้วหยุดจอดให้คนลงที่เคลเวอร์แลนด์ 5 คน จนมาถึงฟิลาเดอเฟียในอีก 20 ชั่วโมงต่อมา ถามว่าคนขับรถชื่ออะไร ******** *********** ************* ***************** *******************
(ดูเฉลยข้างล่าง) ******************* *****************
************** ************
เฉลย
1. 12 เดือน พราะทุกเดือนก็มีอย่างน้อย 28 วันอยู่แล้ว
2. 1 ชั่วโมง เพราะถ้าคุณกินยาตอนบ่ายโมง เม็ดที่ 2 ก็จะกินตอนบ่ายโมงครึ่ง และเม็ดที่ 3 ก็จะกิน ตอนบ่าย 2
3. 1 ชั่วโมง เพราะตั้งนาฬิกาปลุกตอน 9 โมง เข้านอนตอน 2 ทุ่ม นาฬิกาจะดังตอน 3 ทุ่ม
4. 70
5. 9 ตัว
6. จุดไม้ขีดไฟก่อน
7. สีขาว เพราะถ้าบ้านหันไปทางทิศใต้แสดงว่าบ้านต้องอยู่ทิศเห นือหรือขั้วโลกเหนือ
8. ได้แอปเปิ้ล 2 ลูก
9. ไม่ได้เอาไปเลย เพราะคนที่เอาสัตว์ขึ้นเรือไม่ใช่โมเสสแต่เป็นโนอาร์
10. ชื่อของคุณนั่นแหละ ก็คุณเป็นคนขับรถนี่


เครดิต : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1144787

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ปฏิทินกำหนดการสอบวิชาเฉพาะ (ตุลาคม 2551)

การสอบวิชาเฉพาะ (ตุลาคม 2551)
-ประกาศระเบียบการสอบฯ 23 สิงหาคม 2551 ถึง 8 กันยายน 2551 ทาง website : www.cuas.or.th
-รับสมัคร 25 สิงหาคม 2551 ถึง 8 กันยายน 2551 ทาง website : www.cuas.or.th และชำระค่าสมัครผ่านธนาคาร หรือ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย
-ผู้สมัครตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม ถึง 10 กันยายน 2551 ทาง website : www.cuas.or.th
-ผู้สมัครยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2551 โทรสารหมายเลข 0-2354-5624 , 0-2354-5598
-ประกาศแผนผังที่นั่งสอบและอุปกรณ์วิชาเฉพาะ 4 ตุลาคม 2551 ทาง website : www.cuas.or.th
-กำหนดการสอบข้อเขียนและภาคปฏิบัติ 12 – 18 ตุลาคม 2551 ตามประกาศแผนผังที่นั่งสอบของแต่ละสนามสอบ
-ประกาศผลการสอบ 29 พฤศจิกายน 2551 ทาง website : www.cuas.or.th
++++++++++++++++
แถม ^^
-มอ.รับ ปริญญาตรีโควต้าเรียนดี หมดเขต 20สิงหาคมนี้
-มลว.รับโควต้าปริญญาตรีเภสัช ระดับม.6 หมดเขต8 กันยายนนี้
-ม.เกษตรฯบางเขน ให้10ทุนต่อปริญญาตรี ม.6

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Route de la soie


La route de la soie était un réseau de routes commerciales entre l'Asie et l'Europe allant de Chang'an (actuelle Xi'an) en Chine jusqu’à Antioche, en Syrie médiévale. Elle doit son nom à la plus précieuse marchandise qui y transitait : la soie, dont seuls les Chinois connaissaient le secret de fabrication. Cette dénomination, forgée au XIXe siècle, est due au géographe allemand Ferdinand von Richthofen.

เส้นทางสายไหม (อังกฤษ: Silk Road จีน: 絲綢之路, 丝绸之路 พินอิน sīchóu zhī lù เปอร์เซีย: Râh-e Abrisham ตุรกี: İpekyolu อิตาลี: Via della seta โปรตุเกส: Rota da Seda ญี่ปุ่น: シルクロード อินเดีย: रेशम मार्ग) เป็นเส้นทางของขบวนคาราวานในภูมิภาคเอเชียใต้ ที่เชื่อมเมืองต่างๆ ระหว่างเอเชียไมเนอร์ไปถึงประเทศจีน โดยขนส่งสินค้าสำคัญได้แก่ เส้นไหม ผ้าไหม และเครื่องเทศ เป็นต้น
เส้นทางสายไหมเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของแหล่งอารยธรรมโบราณหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอียิปต์โบราณ เมโสโปเตเมีย จีน โรมัน เปอร์เซีย และอินเดีย
สำหรับการเดินทางทางทะเล เส้นทางสายไหมยังขยายไปยังญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย อิตาลี โปรตุเกส และสวีเดน เป็นต้น
ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 หลังการรุ่งเรืองของจักรวรรดิมองโกล เส้นทางสายไหมกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง และมาร์โก โปโลนักเดินทางชาวอิตาลี ได้เป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางผ่านเส้นทางสายไหมไปถึงประเทศจีน

The Silk Road, or Silk Route, refers to a trade route through regions of the Asian continent connecting East and West Asia. Geographically, it is an interconnected society of ancient trade routes connecting Chang'an (today's Xi'an) to Europe and the Near East. It was central to cultural transmission by linking traders, merchants, pilgrims, monks, soldiers, nomads and urban dwellers from China to the Mediterranean Sea for thousands of years.[1]
The route enabled people to transport trade goods, especially luxuries such as silk, satins, musk, rubies, diamonds, pearls and rhubarb[2] from different parts of the country in China, India, and Asia Minor to the Mediterranean, extending over 8,000 km (5,000 miles). Trade on the Silk Road was a significant factor in the development of the great civilizations of China, Egypt, Persia, Arabia, India, Rome, and Byzantium and helped to lay the foundations for the modern world in several respects. Although the term, the Silk Road, implies a continuous journey, very few travelers traveled the route from end to end. For the most part, goods were transported by a series of agents on varying routes and trade took place in the bustling mercantile markets of the oasis towns.[2]
The Central Asian part of the trade route was initiated around 114 BC by the Han Dynasty[3] largely through the missions and explorations of Zhang Qian[4] although earlier trade across the continents had already existed. In the late Middle Ages, use of the Silk Road declined as sea trade increased.[5]