วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2551

Rallye Dakar


Le rallye Dakar (ou « Le Dakar », anciennement rallye Paris-Dakar) est un rallye-raid professionnel, qui se dispute chaque année au mois de janvier, principalement sur le continent Africain. Ce rallye est actuellement aidé financièrement par Total et organisé par A.S.O.

+++++++++++++
rallye [n.m] นัดการแข่ง , การชุมนุม
financier,-financière [adj.] ในทางการเงิน,ที่เกี่ยวกับการเงิน

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551

เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น

เพราะชีวิตคนเรามีแค่ 21,900 วันเท่านั้น
คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน
แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที
ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม...ไม่เลว 3,120 สัปดาห์

แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าจากปฏิทิน
เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับแถวหลังเพื่อรอวันลาโลก
เปล่าเลย ผมไม่ได้กลัวตาย
ตรงกันข้าม ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มันน้อยมาก
หากคำนวณในเชิงตัวเลข ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
เพลงอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ฟัง
หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เคยดู
ความรู้สึกในใจมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป
โอ๊ย...กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามันน้อยเกินไปจริงๆ
และที่น่ากลุ้มไปกว่านั้น คือ ...
ใช่ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี

แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่า บางคนไม่ได้มีเวลาอยู่บนพื้นโลกถึง 21,900 วันหรอกนะ
อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ
อุแม่เจ้า... 2 คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึงสามพันแล้วเหรอเนี่ย
คิดแบบนี้แล้วต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู
กางปฏิทินออกกว้างๆ
เพราะนี่คือวันเสาร์ที่เราเหลือ...บนพื้นโลก
นี่เรากำลังอ่านอะไรบ้าบอ อยู่เนี่ยคิดมากไร้สาระ ฟุ้งซ่าน(รู้นะว่าพวกเธอคิดอยู่) ....

ไม่เลย นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งนั้น
หากเป็นความจริงที่เราไม่ค่อยได้มองมัน
เอาล่ะ นี่คือ เรื่องจริงเรื่องหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามมันไป

งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 18 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,235 วัน
และผ่านคืน วันเสาร์มา ร้อยกว่าครั้ง
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลาที่(คาดว่าน่าจะ)เหลืออยู่ผลลัพธ์ที่ได้
เราจะยังไงกับมันดี แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อ
นั่งเอาหัวตากแอร์ไปวันๆ
ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้ เพื่ออะไร
บางอย่างที่เราเรียกว่า เงินเดือน
บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นเพียงว่า เพื่อนเรียน เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี
บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้หัวใจตัวเอง เหลือแต่ความรู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน
บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวันๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ แน่ กูแน่ งอนการกุศล ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ...บ้า!!!
และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม 'ฆ่าเวลา' ... ชีวิตมันว่างจัด ขนาดต้องนั่งฆ่าเวลากันเลย
บอกตรงๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ
ลองคิดแบบนี้บ้าง...ใช่แล้ว...
เราจะเกิดความเสียดายเพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านอย่างที่เราไม่ได้ทำ
ตายได้ยังไงหากฝันไม่สำเร็จ...
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย
แต่ให้รีบทำทุกอย่างก่อน ที่จะตาย...ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
เคยสงสัยมั้ย... ทำไมเราถูกกำหนดไม่ให้รู้วันตายของตัวเอง
เพราะมันจะทำให้เราไม่แยแสทุกสิ่งทุกอย่าง
และตอบสนองความต้องการของตัวเอง
ทั้งในทางดีและทางชั่ว
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบว่าถ้าตาย
วันพรุ่งนี้ก็จะได้นอนตาหลับ
เกิดโชคดีไม่ตายขึ้นมาเราก็จะได้กำไรในการอยู่ต่อเพื่อทำสิ่งดีที่ยังค้างคา
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า...พรุ่งนี้ชั้นจะตายแล้ว
ทำในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก
ตามฝันของเราไปสุดโต่ง...ต้องรีบแล้ว...
เดี๋ยวตายยนะ...เตือนแล้วไง
รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย...
เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ)ตายแล้ว
ใช้เวลา(ที่อาจจะ)สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดสุดท้ายของเรา
นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อยๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล
คนข้างบ้านเดินหน้าแป้นแล้วมาบอกกข่าวดี
ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อม การ์ด ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
แต่เมื่อกี๊นี้ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทร.มา ปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย... แต่กว่าที่คนเป็นแม่จะได้รู้ข่าวร้าย ก็ ปาไป 5 วัน
ซองในมือผมกลายเป็นเงินช่วยงานศพ
ช่อดอกไม้กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็น แรงบันดาลใจที่อยากจะบอกว่า
อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน...แล้วนะ
อ้าว!!! รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อยอะไรกันอีก
รีบแยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ เดี๋ยวตายซะก่อน...เสียดายแย่!!!

แล้วพวกเรา

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน
เตรียมความพร้อมอะไรบ้างหรือยัง????

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2551

รวมพลคน ชื่อ-นามสกุล สุดแปลกที่มีอยู่จริงในประเทศไทย 55+

รวมพลคน ชื่อ-นามสกุล สุดแปลกที่มีอยู่จริงในประเทศไทย (อย่างฮา)
ตลกมากๆและมีคนชื่อนี้จริงด้วยนะ ไม่ได้โม้!!

สายใจ เกาะมหาสนุก
สมศักดิ์ หวังกระแทกคาง
หวังนที จู๋ยืนยง
ณรงค์ นัดใช้ปืน
กันภัย สูญสิ้นภัย
อูโน่ หลาวทอง
ท้ายรถ (ชื่อคน)
อธิป จู๋กระจ่าง
ศักดิพันธ์ ชอบนอนหงาย
บรรจง หนึ่งในยุทธจักร
กนกกร เม่งเวหา
รรรรรร (อ่านว่า ระ-รัน-รอน)
ท่านฮ่องเต้ สมลุนาวัน
นารัตน์ พัดลม
พล.อ.การุณ เก่งระดมยิง
ลำเทียน จ้องผสมพันธุ์
มนศักดิ์ กางมุ้งคอย
นส. ชะรอยจุติมา (ชื่อ)
นส. แลคโตเย่น (ชื่อ)
ดินทะยาน แจงใส
สร้อยเหม็น ฟางน้อย
ไพรัตน์ หม้อน้ำร้อน
ภาคภูมิ ด้วนรู้ที่
หรูหรา ออมตอง
วรุณนาโศรก จันทรคดี
หรินาท ปรปักษ์เป็นจุล
ชัยยศ พรหมจารีย์
พินาศ (ชา-ติ-หะ-มา) นามสกุลพระราชทาน
วรต อกระโทก
( ชื่อ)บริสุทธิ์ (ตอนโทรสับ มักถามว่า...บริสุทธิ์อยู่มั้ย ?)
นักรบ ชนะราวี (พี่)
สงคราม ชนะราวี (น้อง)
นิธินัย เหินเวหา
ติ๊บ บุญนำ
แคน อัครฮาก
อ๊อด ไชโย
บารมี สมาธิปัญญา
( ชื่อ)บานพับ
บรรพต เจ็ดพี่น้องร่วมใจ
ชาติชาญ เล่นเอาขำ
บุญศรัทธา มหามงคล
หินชนวน อโศก
บุญพอ มีเท
จันมี โถรองมูล
( ชื่อ)สามศร (อันนี้ครูฝรั่งเรียกแล้วฮามากก)
นนนที ปล้ำกะโทก
การหาญ โดนอม (อ่านว่า โด-นอม)

5555555555555555+

เครดิต::sanook.com

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2551

เรื่องของ.....ไข่*

ไข่ เป็นอาหารที่อุดมไปด้วย....
โปรตีน : ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ย่อยง่าย
ธาตุเหล็ก : มีมากในไข่แดง ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ฟอสฟอรัส และแคลเชียม : ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง
วิตามินเอ : ช่วยบำรุงสุขภาพตา ปรับสภาพการมองเห็นในที่มืด และที่สว่าง รวมทั้งช่วยรักษาผิวให้สดชื่น ไม่แห้งเหี่ยว
วิตามินบี2 : ช่วยบำรุงผิว ประสาทนัยน์ตา ลิ้น ริมฝีปาก ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก

ไข่1ฟองแบ่งเป็นไข่แดง และไข่ขาว ในไข่แดงจะมีคอเลสเตอรอลสูง ส่วนในไข่ขาวไม่มีคอเลสเตอรอลเลย หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินว่า เราไม่ควรกินไข่เกินอาทิตย์ละ 3ฟอง (เหมือนเครื่องดื่มชูกำลังเลยเนอะ....ห้ามดื่มเกินวันละ 2ขวด โปรดสังเกตคำเตือน เย้ยยยยย!) เพราะจะทำให้คอเลส เตอรอลสูง แล้วอาจจะก่อให้เกิดโรคอุดตันในเส้นเลือดได้ แต่ได้มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า การที่เราทานไข่วันละ 1-2 ฟอง ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูงก็จริง แต่เป็นคอเลสเตอรอลที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย (เฮ้ออ..ค่อยโล่งอกไปหน่อย) ทานได้ทานดีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่เลย

นอกจากนี้แล้ว ไข่ไม่ได้เป็นแค่เพียงอาหารอย่างเดียว นะจะบอกให้
ไข่ขาว สามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบของยาง กาว หมึกพิมพ์ ช่วยย้อมหนัง และกำจัดสิวเสี้ยนด้วยนะ
ไข่แดง ทำสบู่ สี แชมพู ตกแต่งหนังสัตว์ บำรุงผิว เปลือกไข่ ทำอาหารสัตว์ ปุ๋ย และนำไปประดิษฐ์ของสวยงาม ได้อีกมากมายจ้ะ