แชมป์เยนมาม่า สูตรดังเขย่าโลก, ท่านก็สามารถทำได้
ก่อนอื่นก็ให้เครดิตก่อน ของคุณ ภูภู่ภู้ภู๊ภู๋ ที่ PANTIP ค่ะ
เชิญชมสูตรอร่อยสูตรที่ 1 ] ไข่แดงพิโรธ !! ( 7 - 10 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ไข่ 1 ฟอง , พริกป่น , น้ำปลา
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) ตอกไข่ลงไป
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 100c ระยะเวลา 3.50 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา และน้ำปลา พริกป่นตามใจ
Reaction : " ไข่แดงพิโรธ !! คือการหลอมรวมอย่างลงตัวของโปรตีนและแป้ง ไข่ขาวเป็นก้อนนิ่ม ๆ เหมือนเจลลี่ ส่วนไข่แดงก็ละม้ายคล้ายปีโป้ รสชาดที่ได้ คือความธรรมดา ๆ ในรูปแบบของสูงสุดคืนสู่สามัญ... เรียบง่าย แต่ได้ใจ... "
คำเตือน : " ไม่ควรทำในช่วงหวัดนกระบาด... "
[ สูตรที่ 2 ] สามแม่ครัวร้อนรัก !! ( 15 - 20 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำกุ้ง 1 ซอง , ปลากระป๋อง , มะนาว , น้ำปลา
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) เทปลากระป๋องลงไป 1.1. ปลากระป๋องไม่ควรเทหมด คัดเอาเฉพาะที่พอกิน 1.2. ไม่ควรเทน้ำปลากระป๋องลงไปหมด เพราะจะเลี่ยนจนทานไม่ลง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา น้ำปลา และมะนาว(เยอะหน่อยก็ดี)
Reaction : " สามแม่ครัวร้อนรัก !! คือสูตรลับเฉพาะของพวกที่มีวัตถุดิบเหลือ ประมาณว่าที่บ้านรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งมา แล้วอยากลองทำ ต้องกะแต่เพียงพอดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป มิเช่นนั้นจะไม่น่ากิน หากมากไปก็จะทำให้เลี่ยนเพราะน้ำมันในปลากระป๋อง นั่นทำให้มันแย่ ส่วนผสมของปลากระป๋องกับมาม่า นั่นคล้ายกับสามแม่ครัวกำลังสวิงกิ้ง คลุกเคล้าความเป็นต้มยำกุ้ง ( แต่ไม่มีตังค์ซื้อกุ้งมาใส่ ) เรียกได้ว่า...อร่อยร้อนแรง...แต่แฝงไว้ด้วยความสุข(ส่วนตัว) "
คำเตือน : " ปลากระป๋องใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้...แล้วแต่คนจะชอบนะ "
[ สูตรที่ 3 ] ยาจกพิโรธ !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , ซอสพริก ( แบบขวดหรือแบบแถม )
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ปริ่มมาม่า)
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 2.30 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่อง และซอสพริกลงไป ตามลำดับความค่นแค้น
Reaction : " ยาจกพิโรธ !! คือสูตรง่าย ๆ ที่ทำให้คุณเสพซึ้งถึงความร้อนแรงได้ โดยเฉพาะเวลาคุณมีซอสพริกที่แถมมากับข้าวไข่เจียว หรือหอยทอด เหลืออยู่เต็มบ้าน ไม่รู้จะจัดการอย่างไร วิธีนี้ช่วยคุณได้อย่างมากแน่ ด้วยราคาที่ประหยัดสุด ๆ แถมเป็นการรีไซเคิลวัตถุดิบที่เหลือใช้.... จึงเรียกได้ว่าเป็นสูตรสำหรับคนยากจนผู้ตระหนี่อย่างแท้จริง... "
คำเตือน : " หากใส่หยาดน้ำตาแห่งความอาภัพลงไปด้วย จะอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ "
[ สูตรที่ 4 ] ไฮโซบ้านนอก !! ( 20 - 100 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าหมูสับ 1 ซอง , หมูยอ , แหนม , ปูอัด , ไส้กรอก , ผักนานาชนิด , มะนาว , น้ำปลา , ซีอิ๊วขาว , น้ำมันหอย
1. เทมาม่าลงไปในถ้วย เทน้ำตาม(ท่วมมาม่า) 1.1. เทอาหารประเภทเนื้อลงไป รวยมากใส่มาก รวยน้อยใส่น้อย
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องปรุงที่แถมมา บวกผักนานาชนิด 3.1. เครื่องปรุงที่เหลือใส่ตามระดับความ "เค็ม"
Reaction : " ไฮโซบ้านนอก !! คือสูตรลับเฉพาะของคนในแวดวงคุณหญิงคุณชาย ที่มีเครื่องเพชรเต็มบ้าน แต่ยังคงความประหยัด อยากกินมาม่าแบบไฮโซ เพราะฉะนั้นส่วนประกอบจึงอลังการดาวล้านดวง มากกว่ามาม่าโลโซทั่วไป สารอาหารที่ครบครัน ช่วยเสริมสร้างบารมีแห่งความอวบเข้าไปในทรวดทรง เป็นไฮโซแต่แฝงไว้ด้วยความบ้านนอกอย่างทัดเทียม... " คำเตือน : " ด้วยราคาประมาณนี้...แนะนำให้ไปกินอาหารตามสั่ง ดูจะฉลาดกว่า "
[ สูตรที่ 5 ] บาร์เทนเดอร์รำลึก !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง
1. แกะซองออก เอาเครื่องปรุงออกมา เอามือบีบให้เส้นละเอียด
2. เทเครื่องปรุงลงไปในซอง เริ่มจากน้ำมัน และพริกตาม
3. เขย่าอีกกี่ครั้ง ก็แล้วแต่ความพอใจ ( ยิ่งมากยิ่งดี )
Reaction : " บาเทนเดอร์รำลึก !! คืออารมณ์ของการย้อนกลับไปเป็นเด็กวัยขบเผาะ ลองนึกถึงตอนที่คุณไปเข้าค่ายสิ ไม่ว่าจะลูกเสือ เนตรนารี หรือ ร.ด.เป็นสูตรที่เรียกได้ว่า " สากลโลก " ไม่ว่าใครก็ต้องเคยลองกันมาแล้ว นอกจากจะได้อรรถรสในรสชาดแล้ว ยังได้ออกกำลังไปในตัวด้วย... ยิ่งเขย่ามากเท่าไหร่ ยิ่งแข็งแรงเท่านั้น...ประโยชน์รอบด้านจริง ๆ ... และที่สำคัญมันสามารถนำไปเป็นกับแกล้มในวงสุราได้อีกด้วยนะเนี่ย...ยกเว้นก็แต่โรคกระเพาะจะถามนั่นแหละ... "คำเตือน : " ตอนกินควรกินด้วยกันหลาย ๆ คน...เพื่อเข้าสู่ Mode ระลึกชาติ "
[ สูตรที่ 6 ] มาม่า GMO !! ( 5 บาท )
อุปกรณ์ได้แก่ มาม่าต้มยำ 1 ซอง , มะนาว , น้ำปลา , กุ้งแห้งผักชี , คื่นช่าย , หรืออะไรก็ตามที่เขาใส่ในข้าวต้มหมู... ข้าวสวย 1 ป๊าบ ( เอ่อ...มันคือช้อนใหญ่ ๆ นู๋เรียกไม่ถูก ^ ^" )
1. เทข้าวสวยลงไปในถ้วย เทมาม่าและน้ำตาม(ปริ่มมาม่า) พร้อมกุ้งแห้ง
2. ยัดเข้าไมโครเวฟ ตั้งความร้อน 80c ระยะเวลา 3.00 นาที
3. รอจนเสร็จ ใส่เครื่องที่แถมมาลงไป นอกนั้นใส่ตามความต้องการ
Reaction :" มาม่า GMO !! คือการดัดแปลงพันธุกรรมของมาม่า โดยนักโภชนาการผลที่ได้คือส่วนผสมของมาม่าและข้าวต้ม เป็นลูกครึ่งข้ามขีดทางสายพันธุ์ประมาณว่าได้อรรถรสในต้มยำของมาม่า และเมล็ดข้าวต้มที่ชอนไชผ่านลิ้น ส่วนผสมดังกล่าวนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายแต่อย่างใด... และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกที่ชอบหุงข้าวเหลือนะค่ะ "
คำเตือน : " โปรดระวังกลุ่มกรีนพีช จะมาประท้วงที่หน้าบ้าน... "
เห็นว่าฮาดีเลยเอามาให้อ่านเน้อ
ขอบคุณ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1209542
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551
Aesop
Aesop (also spelled Æsop or Esop, from the Greek Αἴσωπος—Aisōpos) (620-560 BC), known only for the genre of fables ascribed to him, was by tradition a slave (δούλος) who was a contemporary of Croesus and Peisistratus in the mid-sixth century BC in ancient Greece.
อีสป (อังกฤษ: Aesop – ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล หรือราวพุทธกาล?) นักเล่านิทานชาวกรีก ในตำนาน กรีก โบราณ นิทานที่กล่าวว่าเล่าโดย "อีสป" เชื่อกันว่าเป็นนิทานที่รวบรวมมาจากหลายแหล่ง นิทานอีสปได้รับความนิยมแพร่หลายเนื่องจากกวีชาวโรมันชื่อเพดรัสนำมาเล่าจนแพร่หลายในคริสต์ศตวรรษที่ 1 (ระหว่าง พ.ศ. 443-543) และต่อมา "ฌอง เดอ ลา ฟงแทน" กวีชาวฝรั่งเศสได้นำมาเรียบเรียงใหม่เป็นร้อยกรองที่ค่อนข้างเกินจริงแต่มีชีวิตชีวาเมื่อปี พ.ศ. 2211
นิทานที่อีสปเล่า นิยมเรียกกันว่า นิทานอีสป เป็นนิทานสอนคนทั่วไปในด้านศีลธรรมโดยใช้สัตว์ต่างๆ เป็นตัวละคร เช่น เรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ลาโง่ หมาจิ้งจอกกับองุ่น เป็นต้น
สำหรับ ตัวอีสปเองนั้น เชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เดิมเคยเป็นทาสมาก่อน แต่สามารถเป็นไทได้เพราะความสามารถในการพูดของตัวเอง เป็นบุคคลที่ไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม เป็นคนพูดที่เก่งกาจคนหนึ่งในยุคนั้น
นิทานที่อีสปเล่า นิยมเรียกกันว่า นิทานอีสป เป็นนิทานสอนคนทั่วไปในด้านศีลธรรมโดยใช้สัตว์ต่างๆ เป็นตัวละคร เช่น เรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ลาโง่ หมาจิ้งจอกกับองุ่น เป็นต้น
สำหรับ ตัวอีสปเองนั้น เชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เดิมเคยเป็นทาสมาก่อน แต่สามารถเป็นไทได้เพราะความสามารถในการพูดของตัวเอง เป็นบุคคลที่ไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม เป็นคนพูดที่เก่งกาจคนหนึ่งในยุคนั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)